รีวิว ประสบการณ์ทำจมูกครั้งแรกในชีวิต


รีวิว ประสบการณ์ทำจมูกครั้งแรกในชีวิต

อันยองค่ะทุกคน!
สำหรับบทความนี้เป็นอะไรที่พิเศษมากๆเพราะฟางไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางแต่อย่างใด แต่จะมารีวิวประสบการณ์ในการทำจมูกครั้งแรกในชีวิตแบบหมดเปลือก บอกเลยว่าคำนิยาม อยากสวยต้องอดทนนั้นต้องเอามาใช้ในการนี้จริงๆค่ะ เพราะกว่าจะผ่านมาได้นั้นมีช่วงที่ค่อนข้างลำบากเล็กน้อย แต่ผลสุดท้ายก็ออกมาสวยงามจร้า
อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่าเป็นยังไงบ้าง ตามมาดูพร้อมกันเลย!



สำหรับคลินิกที่ฟางมีชื่อว่า Chiang Mai ALIST Clinic ซึ่งฟางใช้ซิลิโคนแบบ Mantis USA Premium ราคาประมาณ 19,999 ค่ะ รวมที่คุณหมออธิบายว่ามีเทคนิคการเย็บ Interdome 5,000 และตะไบ 5,000 รวมค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 29,999 บาทค่ะ


สำหรับทรงจมูกที่ฟางเอาให้คุณหมอดูก็คือทรงของน้องจื่อวี่นั่นเองค่ะ เพราะอยากได้จมูกพุ่งๆนิดๆ แต่ก็ไม่อยากให้เห็นรูจมูกมากนัก เพราะกลัวจะเหมือนจมูกหมู ซึ่งฟางไม่ค่อยชอบอยู่แล้วค่ะ


ขั้นตอนการเตรียมตัวในวันแรกก่อนไปผ่าตัด ฟางได้ซื้อหมอนรองคอเตรียมไว้ และไม่ได้แต่งหน้าไปค่ะ


พอมาถึงคลินิก คุณหมอและพี่ๆพนักงานดูแลเทคแคร์ดีมากๆค่ะ บริการดีมาก ประทับใจมาก


มีบริการอาหารว่างเล็กน้อย ทั้งขนมและน้ำ


จากนั้นพี่ๆพนักงานก็ได้นำใบกรอกประวัติมาให้เรากรอก ไม่ว่าจะเป็นประวัติการใช้ยา การแพ้ยา หรือโรคประจำตัวต่างๆ และส่วนตัวฟางเองนั้นเป็นโรคโลหิตจางค่ะ ก็เลยเขียนบอกหมอด้วย


นี่เป็นรูปหลังจากผ่าตัดเสร็จค่ะ ซึ่งบริเวณสันมูกฟางจะมีรอยช้ำเล็กน้อย คุณหมอเลยบอกว่าน่าจะเป็นเพราะโรคเลือดจางด้วยส่วนนึงค่ะ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่บอกเลยว่าตอนฉีดยาชาคือเจ็บมาก! เจ็บแบบน้ำตาไหลออกมาเลยค่ะ แต่หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์ก็ไม่เจ็บแล้ว แต่จะรู้สึกได้ว่ามีแท่งเย็นๆ (มีดผ่าตัด) อยู่ในจมูกของเรา
อีกอย่างที่ฟางชอบคือ ตอนที่ใส่ซิลิโคนครั้งแรก คุณหมอจะให้เราลุกขึ้นมาตรงเช็คทรงจมูกก่อนว่าสวยหรือยัง เราพอใจมั้ย ถ้าได้ทรงตามที่เราพอใจ คุณหมอก็จะทำการเย็บแผล แค่นี้ก็ถือเป็นว่าเสร็จสิ้นในขั้นตอนของการผ่าตัดจมูกค่ะ
ตามมาดูภาพหลังจากผ่าตัดไปพร้อมๆกันเลยจร้า


รูปที่ 1 คือรูปหลังจากออกมาจากคลินิกประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ
ซึงหลังจากนั้น วันที่ 2 3 4 ก็ค่อยๆเริ่มแดงบริเวณสันจมูกและพวงแก้มค่อยๆบวมขึ้นค่ะ


พอวันที่ 5 6 7 หน้าก็เริ่มบวมขึ้นทั้งหน้า แต่รอยแดงก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นสัญญานว่ามันกำลังเริ่มยุบลงค่ะ
สำหรับวันที่ 8 เป็นวันที่คุณหมอนัดเข้าไปตรวจครบ 1 อาทิตย์ โดยคุณหมอบอกว่าฟางมีอาการบวมเยอะ จึงต้องฉายแสงลดบวมสีเขียว เป็นเวลา 10 นาที


หลังจากฉายแสงผ่านไป จนถึงวันที่ 9 10 11 12 หลังการทำจมูก หน้าก็ค่อยๆยุบลงทีละน้อย รอยสีเหลืองค่อยๆจางลง


จากนั้นฟางก็ได้ไปพบกับคุณหมออีกครั้งหลังจากทำจมูกมาแล้ว 19 วันค่ะ ซึ่งตอนนั้นอาการบวมช่วงแก้มคือลดลงแล้ว แต่มีอาการบวมตรงหัวคิ้วอย่างมาก และคุณหมอได้บอกว่าสาเหตุที่บวมคือ ด้วยความที่ฟางเป็นโรคเลือด เลือดเลยไหลเวียนไม่ค่อยดีนัก ทำให้มีเลือดเก่าค้างอยู่ โดยคุณหมอใช้วิธีดูดเลือดเก่าออกมาด้วยเข็มฉีดยาค่ะ จำได้คร่าวๆว่าฉีดยาชาไป 2 เข็ม และดูดเลือดออกบริเวณหัวคิ้วทั้ง 2 ข้าง
หลังจากวันนั้น ประมาณ อีก วันสองวัน ตรงหัวคิ้วก็ค่อยๆยุบและเริ่มแต่งหน้าได้แล้วในวันที่ 23 หลังทำจมูก


หลังทำจมูกมาประมาณเกือบเดือน จมูกก็ค่อยๆเริ่มยุบลงค่ะ แต่ก็มีอาการบวมอยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าปกติแล้วคร้า แต่งหน้าได้แล้ว


ขั้นตอนการดูแลตัวเองในระหว่างทำจมูก
1. งดอาหารแสลงต่างๆ เช่น ส้มตำปลาร้า อาหารทะเล ของหมัก ของดองต่างๆ
2. ห้ามนอนตะแคง เพราะจะทำให้จมูกเบี้ยวได้นะคะ
3. งดกินอาหารรสจัด
4. หมั่นทำความสะอาดแผลให้สะอาด และทานยาตามที่คุณหมอสั่ง
5. ทานน้ำใบบัวบก หรือน้ำมะพร้าว ก็ช่วยลดบวมได้ดีเหมือนกันค่ะ


อัพเดตจมูกครบ 1 เดือนค่ะ


โดยสาเหตุที่ฟางตัดสินใจทำจมูกเพราะ เดิมจมูกเป็นคนมีสันอยู่แล้วค่ะ แต่ติดตรงที่ปลายงุ้ม และปีกจมูกค่อนข้างกว้างเวลายิ้ม ทำให้ไม่มั่นใจ ซึ่งหลังจากทำจมูกใหม่ ก็รู้สึกว่าเป็นที่น่าพอใจพอสมควรค่ะ เพราะอยากให้หน้าดูมีมิติ ดูมีอะไรบ้าง ไม่เหมือนก่อนทำที่ดูเป็นอาหมวยเลย 555


เป็นยังไงบ้างคะสำหรับรีวิวการเสริมจมูกที่ฟางนำมาฝากในวันนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าทรงจมูกที่เพื่อนๆเห็นนี้ยังไม่เข้าที่นะคะ เพราะคุณหมอบอกว่าทรงจมูกจะเปลี่ยนไปทุกๆ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ถืงจะเข้าที่ค่ะ

ไว้หลังจากนี้ฟางจะมาอัพเดตให้อีกในบทความต่อๆไปนะคะ
ยังไงต้องขอลาไปก่อน สำหรับใครที่กำลังอยากจะไปเสริมจมูก แนะนำให้หาทรงจมูกที่เข้ากับตัวเอง และหาคลินิก หาคุณหมอที่น่าเชื่อถือ ก่อนจะทำน้า เพราะคงไม่มีใครอยากจะเฟลกับการเจ็บตัวบ่อยๆหรอกเนอะ





CONVERSATION

Back
to top